ครัวเรือนฐานราก พ.ศ. 2566

87 ครัวเรือนฐานราก พ . ศ . 2566 ด้านการศึกษาและการทำ างาน ประกอบด้วย สัดส่วนครัวเรือนที่หัวหน้าครัวเรือนจบการศึกษา ระดับประถมศึกษาหรือต่ำ ากว่า และสัดส่วนของครัวเรือนที่หัวหน้าครัวเรือนทำ างานในภาคเกษตร เมื่อพิจารณาคุณลักษณะของครัวเรือนในประเด็นด้านการศึกษาและการทำ างานแล้ว จะเห็นว่า กลุ่มครัวเรือนฐานรากมีสัดส่วนครัวเรือนที่หัวหน้าครัวเรือนจบการศึกษาระดับประถมศึกษาหรือต่ำ ากว่า และสัดส่วนของครัวเรือนที่หัวหน้าครัวเรือนทำ างานในภาคเกษตร แตกต่างจากครัวเรือนกลุ่มควินไทล์ที่ 2 นั่นคือสามารถบ่งบอกความเป็นครัวเรือนฐานรากได้ ที่ระดับความเชื่อมั่น 99.9% ทั้งนี้เมื่อพิจารณาค่าเฉลี่ย และสัดส่วนระหว่างกลุ่มครัวเรือนฐานรากกับกลุ่มควินไทล์ที่ 5 พบว่า สัดส่วนของครัวเรือนที่หัวหน้า ครัวเรือนทำ างานในภาคเกษตรมีความต่าง 5.07 เท่า และ สัดส่วนครัวเรือนที่หัวหน้าครัวเรือนจบการศึกษา ระดับประถมศึกษาหรือต่ำ ากว่ามีความต่าง 4.75 เท่า เป็นที่น่าสังเกตว่า ความแตกต่างระหว่างกลุ่มครัวเรือนฐานรากกับกลุ่มควินไทล์ที่ 5 ในภาคกลาง ของทุกตัวแปร ต่ำ ากว่าความแตกต่างระหว่างกลุ่มครัวเรือนฐานรากกับกลุ่มควินไทล์ที่ 5 ในภาพรวมทั่วประเทศ ด้านค่าใช้จ่ายเฉลี่ยต่อเดือนของครัวเรือน (ตามหมวด) ประกอบด้วย หมวดอาหาร และเครื่องดื่ม (ไม่มีแอลกอฮอล์) หมวดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ หมวดยาสูบ/หมาก/ยานัตถุ์และอื่น ๆ หมวดเกี่ยวกับที่อยู่อาศัย หมวดเครื่องนุ่งห่มและรองเท้า หมวดค่าใช้จ่ายส่วนบุคคล หมวดเวชภัณฑ์ และค่ารักษาพยาบาล หมวดการเดินทาง หมวดการสื่อสาร หมวดการศึกษา หมวดการบันเทิงการอ่าน และกิจกรรมทางศาสนา และหมวดการจัดงานพิเศษ เมื่อพิจารณาคุณลักษณะของครัวเรือนในประเด็นด้านค่าใช้จ่ายเฉลี่ยต่อเดือนของครัวเรือนแล้ว จะเห็นว่า กลุ่มครัวเรือนฐานรากมีค่าใช้จ่ายเฉลี่ยต่อเดือนในหมวดต่าง ๆ แตกต่างจากครัวเรือน กลุ่มควินไทล์ที่ 2 นั่นคือสามารถบ่งบอกความเป็นครัวเรือนฐานรากได้ ยกเว้นมีค่าใช้จ่ายเฉลี่ยต่อเดือน ในหมวดการจัดงานพิเศษ ที่ไม่แตกต่างจากครัวเรือนกลุ่มควินไทล์ที่ 2 นั่นคือไม่ได้บ่งบอกความ “¡ลุ่ม¤รัÇเรือ¹ฐÒ¹รÒ¡ใ¹ÀÒ¤¡ลÒง มี¤ÇÒมเหลื่อมล้ ำ Òด้Ò¹¡Òรศึ¡ษÒและ¡Òรทำ ÒงÒ¹ ต่ำ Ò¡Ç่Ò¡ลุ่ม¤รัÇเรือ¹ฐÒ¹รÒ¡ทั่Çประเทศ” “ ¤่Òใช้จ่Òยใ¹หมÇด¡ÒรจัดงÒ¹พิเศษ ไม่ได้บ่งบอ¡¤ÇÒมเป็¹ ¤รัÇเรือ¹ฐÒ¹รÒ¡ใ¹ÀÒ¤¡ลÒง” พบว่า ความต่างสูงสุดคือ สัดส่วนครัวเรือนที่ไม่มีการออมที่ 3.70 เท่า รองลงมาคือ สัดส่วนครัวเรือนที่มี หนี้นอกระบบ และ สัดส่วนครัวเรือนที่ได้รับเงินจากคนนอกครัวเรือน (ญาติ) ซึ่งมีความต่างอยู่ที่ 3.42 เท่า เช่นเดียวกัน เป็นที่น่าสังเกตว่า ความแตกต่างระหว่างกลุ่มครัวเรือนฐานรากกับกลุ่มควินไทล์ที่ 5 ในภาคกลาง สูงกว่าความแตกต่างระหว่างกลุ่มครัวเรือนฐานรากกับกลุ่มควินไทล์ที่ 5 ในภาพรวมทั่วประเทศ เกือบทุก ตัวแปร ยกเว้นตัวแปรสัดส่วนครัวเรือนที่เป็นเจ้าของทรัพย์สินขนาดใหญ่ และ มูลค่าทรัพย์สินเฉลี่ยต่อ ครัวเรือน ที่ความแตกต่างในภาคกลาง มีค่าต่ำ ากว่าความแตกต่างภาพรวมทั่วประเทศ

RkJQdWJsaXNoZXIy MTA3NzA0Nw==