ครัวเรือนฐานราก พ.ศ. 2566

43 ครัวเรือนฐานราก พ . ศ . 2566 การเปลี่ยนแปลงกระแสทางเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ไม่ว่าด้วยเพราะการแพร่ระบาดของ โรคโควิด-19 หรือด้วยเพราะสถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างประเทศที่เกิดขึ้นในโลก ล้วนส่งผลกระทบโดยตรง ในวงกว้างต่อเศรษฐกิจของโลก และเศรษฐกิจของประเทศไทย ทั้งในแง่ของการปรับตัวและตั้งรับกับสถานการณ์ ด้านสาธารณสุข ตลอดจนการขาดแคลนวัตถุดิบในระบบอุตสาหกรรม โดยเฉพาะการผลิตในหลายอุตสาหกรรม ของไทยที่ยังต้องพึ่งพาทรัพยากรจากต่างประเทศ จึงมีผลกระทบต่อเนื่องให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในแง่เศรษฐกิจของ กลุ่มครัวเรือนต่าง ๆ ในประเทศที่เป็นกำ าลังสำ าคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเปลี่ยนแปลง ในกลุ่มครัวเรือนฐานราก ที่มีความเปราะบางและอ่อนไหวไปตามการเปลี่ยนแปลงของระบบเศรษฐกิจมากที่สุด ดังนั้น การศึกษาและติดตามการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่องของครัวเรือนฐานราก จึงเป็นสิ่งที่สำ าคัญ และจำ าเป็นต่อการนำ าไปใช้วางแผนและกำ าหนดนโยบายเฉพาะกลุ่มได้เหมาะสมมากยิ่งขึ้น เพื่อให้กลุ่มครัวเรือน ฐานรากมีคุณภาพชีวิตที่ดีและเป็นกำ าลังในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศได้อย่างมีประสิทธิภาพต่อไป เพื่อติดตามการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจที่ฐานรากและความเหลื่อมลำ้ าในมิติต่าง ๆ สำ านักงานสถิติแห่งชาติ ได้นำ าข้อมูลโครงการสำ ารวจภาวะเศรษฐกิจและสังคมของครัวเรือน พ.ศ. 2566 ซึ่งสะท้อนภาพของครัวเรือนทั้งหมด 23.9 ล้านครัวเรือน มาศึกษาวิเคราะห์ในมิติด้านรายได้ ค่าใช้จ่าย หนี้สิน การเข้าถึงสวัสดิการและความช่วยเหลือ จากภาครัฐ รวมถึงสภาวะความเป็นอยู่ในเชิงพื้นที่ ตลอดจนนำ าข้อมูลโครงการสำ ารวจภาวะเศรษฐกิจและสังคมของ ครัวเรือน พ.ศ. 2556-2566 มาศึกษาวิเคราะห์การเปลี่ยนแปลงในมิติต่าง ๆ ข้างต้น ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมาด้วย ในการศึกษาครั้งนี้ทำ าการแบ่งครัวเรือนตามลำ าดับของรายได้ประจำ าเฉลี่ยต่อคนต่อเดือนจากน้อยไปมาก ออกเป็น 5 กลุ่ม เท่า ๆ กัน โดยแต่ละกลุ่มจะมีจำ านวนครัวเรือนเป็นร้อยละ 20 ของครัวเรือนทั้งหมด ซึ่งวิธีการดังกล่าว นี้เรียกว่า การแบ่งกลุ่มควินไทล์ตามรายได้ประจำ าต่อคนต่อเดือน โดยกลุ่มครัวเรือน 20% แรกของครัวเรือนในระบบ เศรษฐกิจ เป็นกลุ่มที่มีรายได้ตำ่ าสุด เรียกว่า ครัวเรือนในควินไทล์ที่ 1 (QU1) หรือ ต่อไปนี้จะเรียกว่ากลุ่มครัวเรือน ฐานราก สำ าหรับกลุ่มครัวเรือน 20% ที่มีรายได้ในลำ าดับถัดไป เรียกว่า ครัวเรือนในควินไทล์ที่ 2 (QU2) ครัวเรือนใน ควินไทล์ที่ 3 (QU3) ครัวเรือนในควินไทล์ที่ 4 (QU4) ตามลำ าดับ จนไปถึง กลุ่มครัวเรือน 20% สุดท้าย ซึ่งเป็น กลุ่มครัวเรือนที่มีรายได้สูงที่สุด เรียกว่า ครัวเรือนในควินไทล์ที่ 5 (QU5) ทั้งนี้ ในการศึกษาการเปลี่ยนแปลงของ ครัวเรือนฐานรากในส่วนนี้ ได้ใช้ข้อมูลที่มีการถ่วงค่านำ้ าหนักจำ านวนครัวเรือนในการประมวลผล ...แม้¤ÇÒมเหลื่อมลำ้ Òด้Ò¹รÒยได้จะลดลง แต่¡ลุ่ม¤รัÇเรือ¹ฐÒ¹รÒ¡ ยังเป็¹¤รัÇเรือ¹¡ลุ่มเดียÇที่มีÀÒระ¤่Òใช้จ่ÒยมÒ¡¡Ç่ÒรÒยได้... จากการศึกษาพบว่า ในปี 2566 ครัวเรือนทั่วประเทศมีรายได้ทั้งสิ้นเฉลี่ยต่อเดือน (29,030 บาท) สูงกว่า ค่าใช้จ่ายเฉลี่ยต่อเดือน (23,695) และเมื่อพิจารณาการกระจายรายได้ของครัวเรือน โดยทำ าการเปรียบเทียบรายได้ทั้งสิ้น เฉลี่ยต่อเดือนในกลุ่มครัวเรือนที่มีรายได้สูงสุด (ครัวเรือนในควินไทล์ที่ 5: QU5) กับกลุ่มครัวเรือนฐานราก พบว่า ในปี 2566 รายได้ของครัวเรือนในควินไทล์ที่ 5 (57,889 บาท) มากกว่ากลุ่มครัวเรือนฐานราก (12,836 บาท) อยู่ 5 เท่า ซึ่ง ลดลงจาก 8 เท่าในปี 2556 ทั้งนี้ เนื่องมาจากการเติบโตของรายได้ครัวเรือนในควินไทล์ที่ 5 ในช่วง ปี 2556 – 2566 ลดลง (ร้อยละ -0.2 ต่อปี) ซึ่งน้อยกว่าการเติบโตของรายได้ของกลุ่มครัวเรือนฐานราก ซึ่งเติบโตเฉลี่ย ร้อยละ 5.3 ต่อปี รวมถึงจะเห็นว่าการกระจายรายได้ของครัวเรือนทั่วประเทศ เป็นไปในทิศทางที่ดีขึ้น โดยปี 2566 สัมประสิทธิ์ความไม่เสมอภาคของการกระจายรายได้มีแนวโน้มที่ลดลงอยู่ที่ 0.285 ก�รเปลี่ยนแปลงของครัวเรือนฐ�นร�ก ในประเทศไทย

RkJQdWJsaXNoZXIy MTA3NzA0Nw==