ความยากจนแฝงของครัวเรือน พ.ศ. 2566
ความยากจนแฝงของครััวเรืือน พ.ศ. 2566 55 3.1.10 การได้รับสวัสดิการ/ผลประโยชน์์ต่าง ๆ กรัฐ้ รับั สิ ก์ ต่าั ฐ ข้อมูลสวัสดิการรักษาพยาบาลของบุคคลในตารางที่ 3.8 พบว่า บุคคลในครัวเรือน ทั้ง 4 ประเภท ส่วนใหญ่มีสิทธิรักษาพยาบาลจากบัตรประกันสุขภาพถ้วนหน้า ส่วนสิทธิ เบิกจากหน่วยงานราชการ/รัฐวิสาหกิจ พบว่า บุคคลในครัวเรือนไม่ยากจนแฝง (ประเภทที่ 4) มีสิทธิมากทีุ่่ด (ร้อยละ 12.5) ตามมาด้วยบุคคลในครัวเรือนยากจนแฝงด้านอาหาร (ประเภทที่ 2) (ร้อยละ 3.2) ขณะทีุ่่คคลในครัวเรือนยากจนแฝงด้านที่ไม่ใช่อาหาร (ประเภทที่ 3) และบุคคลในครัวเรือนยากจนแฝงทั้งสองด้าน (ประเภทที่ 1) ซึ่งมีสัดส่วน สิทธิเบิกจากหน่วยงานราชการ/รัฐวิสาหกิจที่่้อยละ 0.6 และ 0.3 ตามลำดับ เมื่อเปรียบเทียบระหว่างครัวเรือนยากจนและครัวเรือนไม่ยากจน พบว่า สำหรับ ทุกสิทธิรักษาพยาบาลบุคคลในครัวเรือนไม่ยากจนมีสัดส่วนมากกว่าบุคคลในครัวเรือน ยากจน ยกเว้นสิทธิรักษาพยาบาลจากบัตรประกันสุขภาพถ้วนหน้า ที่ครัวเรือนยากจน มีสัดส่วนมากกว่า สำหรับผลประโยชน์จากโครงการช่วยเหลือของรัฐ พบว่า บุคคลในครัวเรือน ยากจน ได้รับบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ร้อยละ 33.6 ซึ่งสูงกว่าบุคคลในครัวเรือนไม่ยากจน (ร้อยละ 21.3) นอกจากนี้ เมื่อพิจารณากลุ่มครัวเรือนภายใต้ครัวเรือนไม่ยากจน พบว่าบุคคลในครัวเรือนไม่ยากจนแต่ยากจนแฝงด้านอาหาร และครัวเรือนไม่ยากจน แต่ยากจนแฝงด้านที่ไม่ใช่อาหาร ได้รับบัตรสวัสดิการแห่งรัฐในสัดส่วนที่่่อนข้างสูง (ร้อยละ 29.3 และร้อยละ 36.2 ตามลำดับ) และสูงกว่าของครัวเรือนไม่ยากจนแฝง (ประเภทที่ 4) ซึ่งมีค่าอยู่่�ท ี้อยละ 20.1 อย่างชัดเจน ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่า เงื่อนไขของการ ได้รับบัตรสวัสดิการแห่งรัฐมีประสิทธิภาพสามารถคัดกรองบุคคลได้ดีในระดับหนึ่ง แต่อย่างไรก็ตาม ข้อมูลเหล่านี้้็ยังบ่งชี้ให้เห็นด้วยว่า ยังมีประชาชนกลุ่มหนึ่งที่ได้รับ ความช่วยเหลือจากภาครัฐในรูปแบบต่าง ๆ จนสามารถก้าวผ่านเกณฑ์ความยากจน ของประเทศมาได้ แต่ความช่วยเหลือนั้น ก็ยังคงไม่เพียงพอให้ผ่านเกณฑ์ความยากจนแฝง ในบางมิติ
Made with FlippingBook
RkJQdWJsaXNoZXIy MTA3NzA0Nw==