ความยากจนแฝงของครัวเรือน พ.ศ. 2566

ความยากจนแฝงของครััวเรืือน พ.ศ. 2566 82 จากข้อมูลในตาราง 4.3 พบว่าใน ครัวเรือนยากจนแฝงทั้งสองด้าน (ประเภทที่ 1) และ ครัวเรือนยากจนแฝงด้านอาหาร (ประเภทที่ 2) มีสัดส่วนของครัวเรือนที่ไม่เคย ได้รับอาหารกลางวัน อาหารเสริม (นม) ค่อนข้างสูง โดยเฉพาะในประเภทที่ 2 ที่่ีครัวเรือน ได้รับมากถึงร้อยละ 71.8 ส่วนในครัวเรือนยากจนแฝงด้านที่ไม่ใช่อาหาร (ประเภทที่ 3) และ ครัวเรือนไม่ยากจนแฝง (ประเภทที่ 4) สัดส่วนการได้รับค่าอาหารกลางวัน และอาหารเสริม (นม) ลดลงมาอยู่่�ท ี้อยละ 67.2 และ 81.8 ตามลำดับ นอกจากนี้ครัวเรือนที่เคยได้รับค่าอาหารกลางวัน และอาหารเสริม (นม) พบว่า ในครัวเรือนยากจนแฝงด้านอาหาร (ประเภทที่ 2) และ ครัวเรือนไม่ยากจนแฝง (ประเภทที่ 4) มีครัวเรือนที่่เคยได้รับค่าอาหารกลางวัน และอาหารเสริม (นม) ในอัตราส่วนที่่่อนข้างต่ำ ซึ่งมีเพียงร้อยละ 28.2 และ 18.2 ต่างจากครัวเรือนยากจนแฝงทั้งสองด้าน (ประเภทที่ 1) และครัวเรือนยากจนแฝงด้านที่ไม่ใช่อาหาร (ประเภทที่ 3) ที่่ีจำนวนครัวเรือนที่่เคยได้รับ ค่าอาหารกลางวัน และอาหารเสริม (นม) มากขึ้น ถึงร้อยละ 45.9 และ 32.8 ตามลำดับ ซึ่งอาจสะท้อนถึงความไม่เท่าเทียมในการเข้าถึงโอกาสรับอาหารเสริมในบางพื้นที่ อนึ่ง โครงการสำรวจภาวะเศรษฐกิจและสังคมของครัวเรือน ไม่ได้มีข้อถามเกี่ยวกับ การนำค่าอาหารกลางวัน และอาหารเสริม (นม) ที่ได้รับการอุดหนุนไปใช้จ่ายทำให้ไม่ทราบ ถึงสัดส่วนหรือปริมาณของค่าอาหาร และนมทีู่่กนำไปเป็นค่าใช้จ่ายด้านอาหารของ แต่ละครัวเรือน ในการจำลองสถานการณ์ (Scenario) ครั้งนี้ จึงจำเป็นต้องวางสมมติฐาน เพื่อให้สามารถประเมินผลกระทบเบื้องต้นของค่าอาหาร และนมต่อการใช้จ่ายด้านอาหาร ของครัวเรือนได้ โดยวางสมมติฐานเกี่ยวกับการนำค่าอาหารกลางวัน และอาหารเสริม (นม) ไปใช้จ่ายเป็นค่าอาหารของครัวเรือนไว้ ผ่านการจำลองสถานการณ์ (Scenario) 2 รูปแบบ ดังต่อไปนี้

RkJQdWJsaXNoZXIy MTA3NzA0Nw==