ความยากจนแฝงของครัวเรือน พ.ศ. 2566

ความยากจนแฝงของครััวเรืือน พ.ศ. 2566 84 ทั้งนี้ ใช้การจำลองสถานการณ์ที่ 1 (L50) เป็นตัวแทนของกรณีที่ครัวเรือน ปรับตัวได้บางส่วน และใช้การจำลองสถานการณ์ที่ 2 (L100) ซึ่งเป็นกรณีสุดโต่ง (Extreme Case) สำหรับกรณีที่ครัวเรือนไม่สามารถปรับตัวได้เลย นอกจากนี้ เมื่อเพิ่มค่าใช้จ่ายด้านอาหารของครัวเรือนจากราคาค่าอาหารกลางวัน และอาหารเสริม (นม) 27.25 บาทต่อจำนวนเด็กประถมในครัวเรือน ตามการจำลอง สถานการณ์ข้างต้นแล้ว จะตั้งสมมุติฐานดังนี้ 1 2 3 ครัวเรือนยากจนแฝงด้านที่ไม่ใช่อาหาร (ประเภทที่ 3) ยังคงสถานะ ครัวเรือนเดิม เนื่องจากครัวเรือนดังกล่าวมีค่าใช้จ่ายด้านที่ไม่ใช่อาหาร ต่ำกว่าเส้นความยากจนด้านที่ไม่ใช่อาหารอยู่แล้ว การเพิ่มค่าใช้จ่าย ด้านอาหารของครัวเรือน ก็ยังคงทำให้ค่าใช้จ่ายด้านที่ไม่ใช่อาหาร ของครัวเรือนอยู่่่ำกว่าเส้นความยากจนด้านอาหารเช่นเดิม (มีระยะห่าง มากขึ้น แต่ไม่ได้เปลี่ยนสถานะครัวเรือนแต่อย่างใด) ครัวเรือนยากจนแฝงทั้งสองด้าน (ประเภทที่ 1) และครัวเรือนไม่ยากจนแฝง (ประเภทที่ 4) อาจคงประเภทเดิม หรือตกเป็นครัวเรือนยากจนแฝง ด้านที่ไม่ใช่อาหาร (ประเภทที่ 3) ในส่วนของครัวเรือนยากจนแฝงด้านอาหาร (ประเภทที่ 2) อาจคง ประเภทเดิม หรือเปลี่ยนเป็นครัวเรือนไม่ยากจนแฝง (ประเภทที่ 4) ในกรณีที่เดิมเป็นครัวเรือนยากจนแฝงด้านอาหาร โดยมีค่าใช้จ่าย ด้านอาหารต่ำกว่ามาตรฐาน แต่เมื่อมีรายจ่ายค่าอาหารที่เพิ่มมากขึ้น จนสูงกว่าเส้นความยากจนด้านอาหาร ส่งผลให้ครัวเรือนนี้ เปลี่ยนเป็น ครัวเรือนไม่ยากจนแฝง (ประเภทที่ 4)

RkJQdWJsaXNoZXIy MTA3NzA0Nw==