ความยากจนแฝงของครัวเรือน พ.ศ. 2566

ความยากจนแฝงของครััวเรืือน พ.ศ. 2566 94 การจำลองสถานการณ์ (Scenario) เกี่ยวกับการได้รับอาหารกลางวันในโรงเรียน ประถมศึกษา และ โครงการอาหารเสริม (นม) โรงเรียน โดยเน้นไปที่ผลกระทบ ทางด้านอาหารต่อครัวเรือน (ผลกระทบต่อค่าใช้จ่ายด้านอาหารของครัวเรือน) โดยจำลอง การเปลี่ยนแปลงค่าอาหารกลางวัน และอาหารเสริม (นม) ของครัวเรือนที่่ีเด็กประถม ไปเป็นค่าใช้จ่ายด้านอาหารของครัวเรือนยากจนแฝงทั้งสองด้าน (ประเภทที่ 1) และครัวเรือน ยากจนแฝงด้านอาหาร (ประเภทที่ 2) หากไม่ได้รับประโยชน์จากโครงการฯ และครัวเรือน ไม่สามารถปรับตัวหาเงินส่วนอื่นมาทดแทนได้ ซึ่งเป็นกรณีสุดโต่ง (Extreme Case) จะทำให้มีครัวเรือนยากจนแฝงด้านที่ไม่ใช่อาหาร (ประเภทที่ 3) เพิ่มขึ้นจาก 1,237 เป็น 1,258 ครัวเรือนตัวอย่าง หรือเพิ่มขึ้น 21 ครัวเรือนตัวอย่าง ในกรณีที่เมื่อไม่ได้รับประโยชน์จากโครงการฯ แต่ครัวเรือนสามารถปรับตัวหาเงิน ส่วนอื่นจำนวนร้อยละ 50 ของเงินที่ได้รับจากโครงการฯ ที่หายไปมาทดแทนได้ ครัวเรือนยากจนแฝงด้านที่ไม่ใช่อาหาร (ประเภทที่ 3) เพิ่มขึ้น 11 ครัวเรือน จาก 1,237 เป็น 1,248 ครัวเรือน จากข้อมูลที่กล่าวมาข้างต้น สามารถสรุปได้ว่า การเพิ่มขึ้นของค่าใช้จ่าย ในหมวดอาหารอาจช่วยให้บางครัวเรือนพ้นจากภาวะยากจนแฝงด้านอาหาร (ประเภทที่ 2) แต่ในขณะเดียวกันก็อาจสร้างแรงกดดันให้กับค่าใช้จ่ายในหมวดอื่น เช่น ค่าที่อยู่อาศัย ค่าสาธารณูปโภค และค่าการศึกษา ทำให้ค่าใช้จ่ายในหมวดที่ไม่ใช่อาหารลดลง จนต่ำกว่า เส้นความยากจนด้านที่ไม่ใช่อาหาร และเปลี่ยนแปลงประเภทของครัวเรือนเป็นครัวเรือน ยากจนแฝงด้านที่ไม่ใช่อาหาร (ประเภทที่ 3) ในทีุ่่ด เมื่อพิจารณาเปรียบเทียบปัจจัยระหว่าง 2 แบบจำลอง พบปัจจัยที่่่าสนใจ 2 ปัจจัย เนื่องจากให้ผลในทางตรงข้ามกัน ได้แก่ การไม่มีตู้เย็น และภาระหนี้้ิน กล่าวคือ ถ้าครัวเรือนไม่มีตู้เย็น จะมีโอกาสที่จะเป็นครัวเรือนยากจนแฝงด้านอาหาร (ประเภทที่ 2) ลดลง แต่จะมีโอกาสที่จะเป็นครัวเรือนยากจนแฝงด้านที่ไม่ใช่อาหาร (ประเภทที่ 3) เพิ่มขึ้น และครัวเรือนที่่ีหนี้้ินจะมีโอกาสเป็นครัวเรือนยากจนแฝงด้านอาหาร (ประเภทที่ 2) เพิ่มขึ้น การ ำลองสถานการณ์ (Scenario)์ ความยากจนแฝงของครััวเรืือน พ.ศ.