ความยากจนแฝงของครัวเรือน พ.ศ. 2566
ความยากจนแฝงของครัวเรือน�พ.È.�2566 22 เมื่อพิจารณาตามเขตการปกครอง (ในเขตเทศบาล/นอกเขตเทศบาล) พบว่า ในปี 2566 นอกเขตเทศบาลยังคงมีสัดส่วนของครัวเรือนยากจนแฝงทุกประเภท มากกว่า ในเขตเทศบาล ยกเว้นครัวเรือนไม่ยากจนแฝง (ประเภทที่ 4) ที่ในเขตเทศบาลมีสัดส่วน สูงกว่านอกเขตเทศบาล นอกจากนี้ ผลการวิเคราะห์ ตามตารางที่ 3.1 พบว่า ในปี 2566 ครัวเรือน ไม่ยากจนที่ตกเป็นครัวเรือนยากจนแฝงด้านอาหาร (ประเภทที่ 2) หรือ “ครัวเรือน ไม่ยากจนแต่ยากจนแฝงด้านอาหาร” มีร้อยละ 6.9 ของจำนวนครัวเรือนตัวอย่างทั้งหมด ลดลงจากร้อยละ 10.0 ในปี 2565 ส่วนครัวเรือนไม่ยากจนที่ตกเป็นครัวเรือนยากจนแฝง ด้านที่ไม่ใช่อาหาร (ประเภทที่ 3) หรือ “ครัวเรือนไม่ยากจนแต่ยากจนแฝงด้านที่ไม่ใช่ อาหาร” มีร้อยละ 2.0 ของจำนวนครัวเรือนตัวอย่างทั้งหมด ลดลงเล็กน้อยจาก ร้อยละ 2.3 ในปี 2565 ทั้งนี้ เมื่อรวมครัวเรือนทั้งสองกลุ่มดังกล่าว ซึ่งเป็นครัวเรือนที่ภาครัฐ ควรหามาตรการเหมาะสมมาช่วยเหลือเพิ่มเติม จะอยู่ที่ร้อยละ 8.9 ของจำนวนครัวเรือน ตัวอย่างทั้งหมด หรือประมาณคร่าว ๆ ได้จำนวน 2.1 ล้านครัวเรือน* เมื่อพิจารณาครัวเรือนทั้งสองกลุ่มในระดับภาค พบว่า ภาคที่มีสถานการณ์ ความยากจนแฝงในกลุ่มครัวเรือนไม่ยากจน รุนแรงน้อยที่สุด คือ พื้นที่กรุงเทพมหานคร และ 3 จังหวัด เนื่องจากมีสัดส่วนของครัวเรือนไม่ยากจนแต่ยากจนแฝงด้านอาหาร เพียงร้อยละ 1.6 ของจำนวนครัวเรือนตัวอย่างในพื้นที่ และมีสัดส่วนของครัวเรือนไม่ยากจน แต่ยากจนแฝงด้านที่ไม่ใช่อาหาร ร้อยละ 0.6 ซึ่งเมื่อรวมทั้งสองกลุ่มแล้ว จะมีค่าเพียง ร้อยละ 2.2 เท่านั้น ซึ่งแตกต่างจากภาคใต้ ที่ถือว่ามีสถานการณ์ความยากจนแฝงรุนแรงที่สุด โดยมีสัดส่วนของครัวเรือนไม่ยากจนแต่ยากจนแฝงด้านอาหาร ร้อยละ 8.7 ของจำนวน ครัวเรือนตัวอย่างในพื้นที่ และมีสัดส่วนของครัวเรือนไม่ยากจนแต่ยากจนแฝงด้านที่ไม่ใช่ อาหาร ร้อยละ 2.4 ซึ่งเมื่อรวมทั้งสองกลุ่มดังกล่าว จะสูงถึงร้อยละ 11.1 * คำนวณจากจำนวนครัวเรือนทั� งประเทศ 23,974,156 ครัวเรือน ซื้ึ่งอ้างอิงมาจากค่าคาดประมาณจำนวนครัวเรือน ณ วันที่ 1 ธุันวาคม 2566
Made with FlippingBook
RkJQdWJsaXNoZXIy MTA3NzA0Nw==