ข่าวกิจกรรม/ประชาสัมพันธ์
หน้าแรก
/ ข่าว/ประกาศ / ข่าวกิจกรรม/ประชาสัมพันธ์
“ สำนักงานสถิติแห่งชาติ ชี้ ประชาชนต้องการให้รัฐบาล “แก้ปัญหาค่าครองชีพ” เพื่อเป็นของขวัญ ปีใหม่ 69 มากที่สุด”
4 ธันวาคม 2568
จำนวนคนเข้าชม 121
ดร.เอกพงษ์ หริ่มเจริญ ผู้อำนวยการสำนักงานสถิติแห่งชาติ เปิดเผยว่า “สำนักงานสถิติแห่งชาติ ดำเนินการสำรวจความต้องการของประชาชน พ.ศ. 2569 (ของขวัญปีใหม่ที่ต้องการจากรัฐบาล) ระหว่าง วันที่ 18 - 23 พฤศจิกายน 2568” สรุปผลที่น่าสนใจได้ดังนี้
.
ของขวัญปีใหม่ในปี พ.ศ. 2569 ประชาชนตัวอย่างร้อยละ 86.1 ต้องการให้รัฐบาล “แก้ปัญหาค่าครองชีพ” เช่น ลดราคาสินค้าอุปโภคบริโภค ลดค่าไฟฟ้า ค่าน้ำประปา เป็นต้น ในสัดส่วนที่สูงที่สุด รองลงมา การฟื้นฟูเศรษฐกิจ (ร้อยละ 39.7) แก้ปัญหาภาคเกษตร เช่น ปัญหาราคาพืชผลตกต่ำ ปุ๋ยเคมีราคาแพง เป็นต้น ( ร้อยละ 32.8 ) แก้ปัญหาหนี้สิน (ร้อยละ 32.7) และเพิ่มสวัสดิการต่าง ๆ เช่น เบี้ยผู้สูงอายุ การรักษาพยาบาล เป็นต้น (ร้อยละ 29.5)
.
ความพึงพอใจต่อผลงานของรัฐบาล ประชาชนตัวอย่างร้อยละ 24.0 มีความพึงพอใจต่อผลงานรัฐบาลเมื่อบริหารงานครบ 1 เดือน ในระดับมาก - มากที่สุด (มากร้อยละ 20.6 และมากที่สุดร้อยละ 3.4) ร้อยละ 52.4
พึงพอใจฯ ในระดับปานกลาง ร้อยละ 18.8 พึงพอใจฯ ในระดับน้อย และร้อยละ 4.8 พึงพอใจฯ ในระดับน้อยที่สุดโดยประชาชนตัวอย่างในภาคตะวันออกเฉียงเหนือร้อยละ 34.5 พึงพอใจฯ ในระดับมาก - มากที่สุด ในสัดส่วนที่สูงกว่าภาคอื่น ขณะที่กรุงเทพมหานครร้อยละ 11.0 พึงพอใจฯ ในระดับมาก – มากที่สุด ในสัดส่วนที่ต่ำกว่าภาคอื่น
.
ความเชื่อมั่นต่อการบริหารงานของรัฐบาล ประชาชนตัวอย่างร้อยละ 23.1 มีความเชื่อมั่นต่อการบริหารงานของรัฐบาลในระดับมาก - มากที่สุด (มากร้อยละ 19.7 และมากที่สุดร้อยละ 3.4) ร้อยละ 53.0 เชื่อมั่นฯ ในระดับปานกลาง ร้อยละ 19.0 เชื่อมั่นฯ ในระดับน้อย และร้อยละ 4.9 เชื่อมั่นฯ ในระดับน้อยที่สุด โดยประชาชนตัวอย่างในภาคตะวันออกเฉียงเหนือร้อยละ 32.3 เชื่อมั่นฯ ในระดับมาก - มากที่สุด ในสัดส่วนที่สูงกว่าภาคอื่น ขณะที่กรุงเทพมหานครร้อยละ 11.6 เชื่อมั่นฯ ในระดับมาก - มากที่สุด ในสัดส่วนที่ต่ำกว่าภาคอื่น
.
รูปแบบการหลอกลวงออนไลน์/โทรศัพท์ที่ประชาชนทราบ/รับรู้ข่าวสาร ประชาชนตัวอย่างมากกว่า ร้อยละ 80 ทราบรูปแบบการหลอกลวงทางออนไลน์/โทรศัพท์ โดยรูปแบบการหลอกลวงทางออนไลน์/โทรศัพท์ที่ทราบ 2 อันดับแรก ได้แก่ หลอกลวงซื้อขายสินค้า/บริการออนไลน์ (ร้อยละ 97.5) และหลอกให้โอนเงินโดยอ้างเป็นเจ้าหน้าที่รัฐหรือหน่วยงาน (ร้อยละ 97.4) การทราบช่องทางการแจ้งเรื่องการถูกหลอกลวงทางออนไลน์/โทรศัพท์ 5 อันดับแรก ประชาชนตัวอย่างร้อยละ 89.7 ทราบช่องทางในการแจ้งเรื่องการถูกหลอกลวงฯ โดยช่องทางที่ทราบการแจ้งเรื่องการถูกหลอกลวงฯ 3 อันดับแรก ได้แก่ แจ้งตำรวจ ในสัดส่วนสูงสุด ( ร้อยละ 80.0 ) แจ้งธนาคารหรือหน่วยงานให้ระงับ/อายัดบัตร (ร้อยละ 43.2) โทรสายด่วน 1441 (ร้อยละ 35.3) แจ้งกำนัน/ผู้ใหญ่บ้าน/ผู้นำชุมชน (ร้อยละ 25.4) และแจ้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนั้น ๆ ( ร้อยละ 15.8 ) การดำเนินการและได้รับความช่วยเหลือจากภาครัฐ ประชาชนตัวอย่างร้อยละ 23.9 ดำเนินการและได้รับความช่วยเหลือจากภาครัฐ ร้อยละ 13.5 ดำเนินการและอยู่ระหว่างกระบวนการช่วยเหลือ และร้อยละ 62.6 ไม่ได้ดำเนินการใด ๆ โดยสาเหตุที่ไม่ดำเนินการ 3 อันดับแรก ได้แก่ มูลค่าความเสียหายน้อย (ร้อยละ 40.4) เสียเวลาในการดำเนินการ/กระบวนการทางกฎหมายล่าช้า (ร้อยละ 19.6) และขั้นตอนยุ่งยาก/ซับซ้อน (ร้อยละ 8.6) เรื่องที่รัฐบาลควรดำเนินการเร่งด่วน 5 อันดับแรกในการแก้ไขปัญหาการหลอกลวงฯ พบว่า บังคับใช้กฎหมายอย่างเฉียบขาด ทั้งผู้กระทำความผิดและผู้สนับสนุนอยู่เบื้องหลัง (ร้อยละ 61.4) ให้ความรู้แก่ประชาชนให้รู้เท่าทันกลโกงออนไลน์ (ร้อยละ 61.0) เตือนภัยรูปแบบการหลอกลวงออนไลน์/โทรศัพท์ให้แก่ประชาชน ( ร้อยละ 59.8 ) ให้ความช่วยเหลือ/เร่งคืนเงินผู้เสียหายอย่างรวดเร็ว (ร้อยละ 51.5) และยึดและอายัดทรัพย์สินที่เกี่ยวข้องทันทีเพื่อตัดเส้นทางการเงิน (ร้อยละ 42.1) ความเชื่อมั่นในการแก้ไขปัญหาการหลอกลวงฯ ของรัฐบาล ประชาชนตัวอย่างร้อยละ 18.8 ระบุว่ามีความเชื่อมั่นในการแก้ไขปัญหาการหลอกลวงฯ ของรัฐบาล ในระดับมาก - มากที่สุด (มากร้อยละ 16.5 และมากที่สุดร้อยละ 2.3) ร้อยละ 48.0 เชื่อมั่นฯ ในระดับปานกลาง ร้อยละ 26.1 เชื่อมั่นฯ ในระดับน้อย และร้อยละ 7.1 เชื่อมั่นฯ ในระดับน้อยที่สุด โดยประชาชนตัวอย่างในภาคตะวันออกเฉียงเหนือร้อยละ 28.7 เชื่อมั่นฯ ในระดับมาก - มากที่สุด ในสัดส่วนที่สูงกว่าภาคอื่นผลการสำรวจที่ผมกล่าวไป ถือเป็นครั้งที่สองของโครงการ “Quick survey สำนักงานสถิติแห่งชาติ 4 เดือน (ต.ค. 68 - ม.ค. 69)” สำนักงานสถิติแห่งชาติยังมีการสำรวจความคิดเห็นของประชาชน อีก 2 ครั้งหลังจากนี้ สามารถติดตามผลสำรวจประจำเดือนได้ทางเว็บไซต์สำนักงานสถิติแห่งชาติ www.nso.go.th และทุกแพลตฟอร์มออนไลน์ พิมพ์ NSOOFTHAILAND”
**********
.
หมายเหตุ : การสำรวจครั้งนี้เก็บรวบรวมข้อมูลด้วยวิธีสัมภาษณ์ประชาชนที่มีอายุตั้งแต่ 18 ปีขึ้นไป ซึ่งอาศัยอยู่ในครัวเรือนส่วนบุคคลทั่วประเทศ จำนวนทั้งสิ้น 6,000 ราย ใช้แผนการสุ่มตัวอย่างแบบ Stratified Two - Stage Sampling เพื่อให้ได้ข้อมูลที่เป็นตัวแทนของประชาชนทุกภูมิภาค ของประเทศ โดยกำหนดความคลาดเคลื่อนไม่เกิน 0.05 ที่ระดับความเชื่อมั่นร้อยละ 95.0
.
.
ติดตามสำนักงานสถิติแห่งชาติเพื่อข้อมูลที่น่าสนใจได้ทุกช่องทาง
• Website : http://www.nso.go.th/
• Facebook : https://www.facebook.com/NSOOFTHAILAND/
• Instagram : https://www.instagram.com/nsoofthailand/
• Line : NSO of Thailand
.
.
0





หรือ 


