NSO การค้นหารวมในเว็บไซต์

ข่าวกิจกรรม/ประชาสัมพันธ์

0

กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม แถลงนโยบายการขับเคลื่อนภารกิจหลัก มุ่งยกระดับเศรษฐกิจดิจิทัลของประเทศ

6 ตุลาคม 2568 จำนวนคนเข้าชม 78
7777

ไชยชนกแถลงนโยบายขับเคลื่อน ดีอี ร่วมบูรณาการแก้ไขภัย 4 ด้าน เร่งรัดช่วยเหลือประชาชน ย้ำใช้แนวทางโปร่งใส ตรวจสอบได้

วันที่ 6 ตุลาคม 2568 นายไชยชนก ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) เป็นประธานการแถลงนโยบายขับเคลื่อนกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม โดยมีนายพชร อนันตศิลป์ ปลัดกระทรวงดีอี พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร และหัวหน้าหน่วยงานในสังกัดกระทรวงดิจิทัล เข้าร่วม ณ ห้องประชุม 203 ชั้น 2 อาคารกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (แห่งใหม่) ศูนย์ราชการฯ อาคาร ซี ถ.แจ้งวัฒนะ หลักสี่ กรุงเทพฯ

นายไชยชนก กล่าวว่า ตามที่คณะรัฐมนตรี นายอนุทิน ชาญวีระกูล นายกรัฐมนตรี ได้แถลงนโยบายต่อรัฐสภาเมื่อวันที่ 29 กันยายน 2568 ที่ผ่านมานั้น กระทรวงดีอี ได้เตรียมดำเนินการขับเคลื่อนภารกิจที่สำคัญเร่งด่วนรองรับนโยบายรัฐบาลครอบคลุมทุกด้าน ได้แก่ 1. ด้านเศรษฐกิจ 2. ด้านความมั่นคง 3. ด้านสังคม 4. ด้านภัยธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และ 5. ด้านการบริหารภาครัฐ การปฏิรูปกฎหมาย ตามแนวทาง “Quick Win” โดยเน้นให้ความสำคัญกับความโปร่งใสในกระบวนการทำงานทุกขั้นตอน และสามารถตรวจสอบได้ ซึ่งมีเป้าหมายหลักในการแก้ไขปัญหา 4 ด้านภายในระยะเวลา 4 เดือน ได้แก่

1.ภัยธรรมชาติ

ขอให้หน่วยงานร่วมบูรณาการการใช้งานข้อมูลด้านอุตุนิยมวิทยา หรือเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องร่วมกับหน่วยงานอื่นๆ ทั้งหน่วยงานภาครัฐ เอกชน และภาคประชาสังคม ทั้งภายในประเทศ และระหว่างประเทศ เพื่อพัฒนาและออกแบบแผนงานการนำข้อมูลไปใช้งานด้านการรับมือภัยธรรมชาติ ให้มีความแม่นยำและสอดคล้องกับสถานการณ์มากยิ่งขึ้น โดยเน้นให้ความสำคัญเรื่องของการใช้เทคโนโลยีเพื่อความปลอดภัย และการลดความสูญเสียของประชาชนจากภัยพิบัติต่างๆ รวมถึงการใช้ข้อมูลอุตุนิยมวิทยาและดาวเทียมเพื่อวางแผนในการเตือนภัยพิบัติอย่างละเอียดและแม่นยำมากขึ้น พร้อมกับส่งเสริมเพิ่มเติมทางการสื่อสารในการแจ้งเตือนภัยพิบัติให้เข้าถึงประชาชนในทุกระดับ รวมทั้งติดตามเฝ้าระวังความเสียหายของโครงข่ายการสื่อสารโทรคมนาคม ซึ่งส่งผลกระทบต่อประชาชน และเร่งรัดแก้ไขในทันที

2.ภัยความมั่นคง

เร่งรัดให้มีการส่งเสริมความรู้ความเข้าใจด้านการใช้งานเทคโนโลยีดิจิทัลให้กับประชาชน โดยยกระดับความสำคัญเรื่องการสร้างความตระหนักรู้เท่าทันภัยอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ให้เป็นเรื่องฉุกเฉินเร่งด่วน พร้อมกับบูรณาการร่วมกับหน่วยงานอื่นๆ ด้วยการนำเทคโนโลยีและข้อมูลที่มีในหน่วยงานของกระทรวงดีอีมาใช้ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ

นอกจากนี้ขอให้หน่วยงานได้ จัดทำแนวทางการใช้เทคโนโลยีเพื่อเสริมสร้างความมั่นคงตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ช่วยลดความตึงเครียด และช่วยป้องกันการสูญเสียชีวิตและทรัพย์สินของทหารและประชาชน และสนับสนุนเทคโนโลยีโดยการบูรณาการร่วมกับภาคเอกชน เช่น เทคโนโลยีโดรน

รวมทั้งการบูรณาการความร่วมมือกับฝ่ายความมั่นคงที่เกี่ยวข้อง และภาคเอกชนด้านโทรคมนาคม (Operator) เกี่ยวกับสัญญาณสื่อสารตามแนวชายแดนทั้งหมด ร่วมกับฝ่ายความมั่นคงที่เกี่ยวข้อง และการเสริมสร้างความร่วมมือ ความช่วยเหลือระหว่างประเทศ และความร่วมมือจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

3.ภัยเศรษฐกิจ

จากภาวะเศรษฐกิจทั่วโลก ซึ่งอาจก่อให้เกิดผลกระทบในเชิงเศรษฐกิจของประเทศไทยในสถานการณ์ที่ไม่อาจคาดการณ์และประเมินได้ ดังนั้นกระทรวงดีอี โดยหน่วยงานในสังกัดจะต้องเป็นผู้นำในการส่งเสริมสนับสนุนผู้ประกอบการดิจิทัล เพื่อช่วยลดผลกระทบจากเศรษฐกิจที่อาจเกิดขึ้นได้

ขณะเดียวกัน กระทรวงดีอี พร้อมสนับสนุนการแก้ไขปัญหาการผูกขาดของแพลตฟอร์มรายใหญ่ กระทรวงดีอี จะร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาการกำหนดมาตรการกำกับดูแลการแข่งขันที่เป็นธรรม พร้อมทั้งส่งเสริมแพลตฟอร์มของคนไทยให้สามารถแข่งขันได้อย่างเท่าเทียมยิ่งขึ้น

เช่นเดียวกับแนวทางการสร้างความสมดุลระหว่างผู้ประกอบการแพลตฟอร์ม และประชาชนทั้งที่เป็นผู้บริโภค และผู้ให้บริการในแพลตฟอร์ม โดยเน้นให้ความสำคัญกับการสร้างความสมดุล และมาตรฐานความปลอดภัย

4.ภัยทางสังคม

สนับสนุนการเข้าถึงเทคโนโลยีขั้นพื้นฐาน อินเทอร์เน็ต เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI ข้อมูลและบริการต่าง ๆ โดยเฉพาะ AI ที่เป็นเทคโนโลยีสำคัญพื้นฐานในปัจจุบัน สร้างความตระหนักรู้และเข้าใจในการใช้ AI อย่างถูกต้องและปลอดภัย (AI Literacy) เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิต เพิ่มความเข้าใจ และสร้างสังคมดิจิทัลที่ทุกคนมีส่วนร่วมได้จริงอย่างปลอดภัยและสร้างสรรค์

สำหรับกรณีของภัยทางสังคมนั้น หลังจากมีแผนรับมือกับภัยทางธรรมชาติ และภัยความมั่นคงแล้ว สามารถนำมาประยุกต์ใช้ในการแก้ไขภัยทางสังคมได้ในแนวทางเดียวกัน พร้อมทั้งการส่งเสริมและสนับสนุนการใช้เทคโนโลยีเพื่อลดความเหลื่อมล้ำทางสังคมได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

ด้านการยกระดับมาตรการปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์และอาชญากรรมออนไลน์ จะมีการบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวดและบูรณาการการทำงานร่วมกันระหว่างหน่วยงานภาครัฐและเอกชน กำหนดมาตรการป้องกันและปราบปรามเชิงรุกกับอาชาญกรรมทางเทคโนโลยีเพิ่มเติม เพื่อลดความเสี่ยงของการเกิดความเสียหายต่อทั้งบุคคลและระบบเศรษฐกิจโดยรวมที่มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

เนื่องจากปัจจุบันประเทศกำลังเผชิญกับสภาวะของภัย 4 ด้าน และรัฐบาลมีระยะเวลาทำงาน 4 เดือน ดังนั้นการมอบหมายนโยบายจึงจะต้องมีจุดเริ่มต้นที่ทุกหน่วยงานมองเห็นปัญหาที่เกิดขึ้น และพร้อมที่จะแก้ไขปัญหาร่วมกัน สำหรับกระทรวงดีอี ในสถานการณ์ปกติถือเป็นหน่วยงานหลักในการกำหนดทิศทางของประเทศ ด้วยการวางฐานเทคโนโลยีที่มั่นคงและยั่งยืน แต่ในสถานการณ์ที่กล่าวมาข้างต้น ตนจึงขอให้มีการดำเนินการเพิ่มแผนงานภารกิจในการแก้ไขปัญหา และลดความเสียหายจากภัยทั้ง 4 ด้านที่ประเทศกำลังเผชิญ โดยเน้นให้ความสำคัญเรื่องความโปร่งใส่ สามารถตรวจสอบได้ในทุกขั้นตอน ด้วยหลักการของการบูรณาการ การส่งเสริมผลักดัน การสนับสนุน และประคับประคองประชาชน ผู้ประกอบการ เพื่อให้ก้าวผ่านสถานการณ์ในปัจจุบันไปได้รมว.ดีอี กล่าวในตอนท้าย

 

 

1
     
2
     
3
     
4
     
5
     
6
     
7